ที่นี่มีฉายาว่า ทัชมาฮาลแห่งอิรวดี สวัสดีครับ
เช้าวันที่สามครับ
เช้านี้เราไปไม่ทันเรือ ที่จะไประฆังมิงกุนนะครับ
และเราไม่รู้ครับ
ว่ามันมีแค่วันละรอบ
แต่เดี๋ยวเราเปลี่ยนแพลนโดยการไปโดยรถแทน ครับ
ก็..คำนวณราคาแล้วครับ
ไม่ต่างกันมาก
ถ้าเรือเนี่ยคนละ5,000 ก็ 25,000 จ๊าต รวมกับที่ไปพาเลทด้วยก็ อีก 15,000 จ๊าต ก็จะเป็น 40,000
ถ้าเราเหมาไปเนี่ย มันก็จะตกประมาณ 50,000 ซึ่งต่างกันแค่หมื่นกว่าจ๊าด หมื่นกว่าจ๊าตก็ 300 กว่าบาท ตกต่อคนที่จ่ายเพิ่มคนละ 60 บาท
แต่ว่านั่งรถนานขึ้นไป 2 ชั่วโมง สรุปวันนี้เราเลยขึ้นเรือไม่ทัน เรือต้องขึ้น 9 โมงเท่านั้นนะครับ
!! วันนี้เราจะไปที่มิงกุนนะครับ
ที่มีระฆังอะไรนะ (ระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก) เราจะซื้อตั๋วก่อนนะครับ
5,000 จ๊าต ก็คือประมาณคนละร้อยกว่าบาท เค้าจะให้สติ๊กเกอร์อย่างนี้มา เที่ยวได้หนึ่งวัน (ไม่ใช่หนึ่งปี ) ส่วนที่นี่คือ*&^%$*&^%$ ฟังอีกครั้งนะครับ
หมา…. ที่นี่มีฉายาว่า "ทัชมาฮาลแห่งอิรวดี" (เห้ย ทำไมถึงได้ชื่อนี้มา) ที่นี่ชื่อว่า เมี๊ยะเต็งดาน เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ โดยที่พระเจ้าบากะยีดอว์ พระราชนัดดา ทรงสร้างไว้ให้พระมหาเทวีชินพิวมิน เค้าเรียกว่าพิลาลัยก่อนเวลาอันควร ก็คือเสียชีวิตก่อน เค้าก็เลยสร้างขึ้นมาเพื่อแบบ.. (อนุสรณ์แห่งความรัก) ในวันที่คนรักของท่านจากไป ก็คือเมี๊ยะ เต็งดาน ครับ
เย็นดีแท้ ตอนนี้เราอยู่ในอุโมงค์นะครับ
เป็นทางขึ้นไปยังยอดของเจดีย์นะครับ
ข้างบนน่าจะมีพระพุทธรูป ผมเชื่อว่าเค้าเป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นจากความรักเนี่ย คนที่มาควรจะมาขอพรเรื่องความรัก เป็นแน่แท้ คิดว่า
ถ้าจะมาขอพรที่นี่ น่าจะมาขอเรื่องความรักกัน เพราะงั้นผมจะมาขอให้เพื่อนผมที่ยังโสดอยู่คนนี้ ขอให้แคล้วคลาดทุกชาติไป กับความรักไม่พบเจอกันอีก (ดีดีดิ)
ถ้าจะเจอ ขอให้โดนหลอก อันนี้ผมไม่แน่ใจความหมาย เดี๋ยวไปเสิร์จอีกทีนึง
แต่ว่าข้างหลังมีพระพุทธรูปนะครับ
ซ้อนกันสององค์ มีองค์ข้างหลังหนึ่งองค์ แล้วก็มีองค์ด้านหน้าหนึ่งองค์ ต้องมีความหมายอะไรสักอย่างหนึ่ง ก็เป็นได้ เรียบร้อยครับ
(รับรองแคล้วคลาด) ถูกต้องครับ
เนื้อคู่เค้าจะไม่เจออีก เค้าจะอยู่คนเดียวตลอดไป ไม่เป็นไร ผมกลัวผมเหงาผมก็เลยขอ ขอให้แมทเป็นเหมือนผม ที่เยอะกว่านักท่องเที่ยวคืออะไรรู้ไหมครับ
คนขายของ ดูเป็นขบวนการจูเรนเจอร์ เค้าจะเดินตามครับ
แล้วเค้าจะมีเสต็ปในการตาม เค้าจะรู้ว่าตามประมาณไหนกำลังดี
ถ้าคนทั่วไปเค้าจะตามแป๊บๆ แล้วก็เค้าไป
แต่…
ถ้าดูหลอกง่ายหน่อย แบบนี้ เค้าก็จะตามนานหน่อย ไม่มีคำว่ายากหรือง่าย มี
แต่คำว่าได้เลย ไปๆขึ้นรถไป ! รถมาแล้ว ข้างหลังนี้ครับ
คือระฆังมิงกุน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่พระเจ้าปดุงทรงโปรดให้สร้างขึ้นมา เพื่อให้สมฐานะกับเจดีย์มิงกุน จริงๆมีระฆังอันนึงที่ใหญ่กว่า อยู่ที่มอสโก มันอยู่ในพระราชวังเครมลิน ใหญ่กว่าอันนี้
แต่…
เนื่องจากว่าระฆังอันนั้นมันร้าว แล้วมันใช้แบบตีให้มีเสียงดังไม่ได้แล้ว ชาวพม่าเลยภาคภูมิใจว่า อันนี้ต่างหาก
ที่ใหญ่ที่สุด ที่ยังใช้งานได้อยู่จริง ซึ่งข้างในเนี่ย น้ำหนักของมัน เดี๋ยวไปดูนะครับ
87 ตัน ต้องบอกเลยว่า สมัยโบราณเนี่ย เค้าก็จะสลักข้อความตัวอักษรเอาไว้ (อันนี้คิดว่าไม่น่าใช่นะครับ
) – ไม่ใช่เหรอ
– (ไม่ใช่ครับ
) ว้ายตายแล้ว
ถ้าสังเกตดีๆนี่มีการ์ตูนด้วยนะครับ
ก็มีคนมาสลักไว้ครับ
มาเขียนไว้ ไม่รู้ว่าทุกวันนี้เค้าห้ามเขียนหรือเปล่า ไม่น่าห้ามนะ
แต่…
ถ้าใครมาอีกก็อย่าเขียนเลยครับ
ระฆังนี้ครับ
หนัก 87 ตัน
ถ้าเราอยากรู้ว่าหนัก 87 ตันจริงไหม เดี๋ยวเราจะให้ตี๋ลองลงไปนอนพาดตรงนี้ เดี๋ยวจะปลดล็อคระฆังลงมา
ถ้าเค้าขาดเป็นสองท่อน แปลว่าหนักจริง
แต่…
ถ้าไม่หนักจริงเค้าจะไม่เป็นไร พร้อมไหมครับ
พร้อม !! พร้อมเสียสละไปนอนให้ระฆังทับ? ให้แมทไปนอนแทน นี่คือระฆังมิงกุนแห่งนี้นี่เองครับ
!! ต้องเคาะจะได้ชื่อเสียงโด่งดัง ไม่มีใครบอก คิดเอง เห็นมั้ย
อุ๊ยเสียงดัง ? ข้างในด่าพี่แล้วว่ะ เนี่ยไม่พูดก็ไม่คิดไง พอพูดปุ๊บกูก็เกรงใจ หมดละครับ
ระฆังมิงกุน ไปpagodaอันต่อไปครับ
เจดีย์มิงกุนสร้างโดย พระเจ้าปดุงเป็นกษัตริย์พม่า ที่ไปตีเมืองยะไข่ แล้วก็ไปอันเชิญเอาพระมหามุนี มาประดิษฐานที่มัณฑะเลย์ เพื่อจะไปทำพิธีล้างพระพักตร์พรุ่งนี้ เค้าบอกว่าที่นี่เค้าอยากสร้างเจดีย์ ให้ยิ่งใหญ่กว่าของสมัยพุกาม แล้วก็ให้ยิ่งใหญ่กว่าพระปฐมเจดีย์ที่ไทย เค้าก็เลยไปเกณฑ์ไพร่ทาสทั้งหมดในยุคนั้นเนี่ย หน้าตาประมาณนี้ ที่เมืองยะไข่เนี่ย (อีกแล้วเหรอ) ไปเกณฑ์มา มาสร้างเจดีย์นี้ เชลยศึกสร้างไปได้ 7 ปีครับ
ปรากฏว่าเสด็จสวรรคตก่อน ก็เลยไม่ได้สร้างต่อ สร้างไป 7 ปีครับ
แล้วระหว่างนั้นเกิดสงครามพม่า-อังกฤษพอดีไง แล้วพระองค์เสด็จสวรรคตก่อน ก็เลยสร้างแค่ฐาน แล้วก็ยังสร้างไม่เสร็จ นี่แค่ฐานครับ
แล้วเห็นรอยร้าวไหมครับ
เนี่ยเกิดขึ้นตอนแผ่นดินไหว นะครับ
ที่ประเทศพม่า ครั้งแรกตอนปีอะไรไม่รู้
แต่ว่าครั้งล่าสุดเนี่ย ปี 2012 เนี่ย ก็แผ่นดินไหวอีกรอบ ก็แตกขึ้นไปอีก เค้าก็เลยห้ามคนขึ้นไปข้างบนแล้ว เค้าไม่ให้ขึ้นข้างบนแล้วนะครับ
ที่เคยบอกว่ามีแผ่นดินไหว แล้วมันก็พัง สมัยก่อนเนี่ย น่าจะขึ้นไปข้างบนสุดได้
แต่ตอนนี้ไม่น่าได้แล้ว ล็อครั้วนะครับ
เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยของทุกท่าน ก็เสียดายครับ
ถ้าขึ้นไปบนฐานนั้นได้ก็น่าจะสวยกว่านี้ อากาศบนนี้เย็นครับ
แล้วก็อิฐตรงนี้เอียงครับ
ถ้ามีแผ่นดินไหวตรงนี้ก็น่าจะพังก่อน ซึ่งอาจจะเป็นวันนี้ก็ได้ แข็งแรงอยู่เค้าเอาธูปมาค้ำอยู่ ช่วยกันคนละนิดคนละหน่อย ก็นี่คือเจดีย์มิงกุนครับ
ที่ไม่มียอดเจดีย์มี
แต่ฐาน ซึ่งสิ่งที่ที่นี่ให้กับเราคือ เวียนหัวชิบหาย ดูมีมนต์ขลังตรงรอยแตกนี่แหละ แตกมันก็ยังอยู่ได้ จริงๆครับ
นี่ถือว่ามหัศจรรย์แตกแค่สองครั้ง นี่แตกวันละหลายครั้งยังอยู่ได้เลยครับ
อะไรแตก? จิตใจของเค้า โบราณสถานจุดแรกนะครับ
มีชื่อว่า เจดีย์เชตคยานะครับ
ที่พระเจ้าปดุงโปรดให้สร้างครอบรอยพระพุทธบาท บนหินอ่อนครับ
เป็นสัญลัษณ์ของการก้าวย่างเข้าสู่ดินแดน ที่พระเจ้าปดุงพระราชดำริสร้างเจดีย์มิงกุนนั่นเอง แค่นั้นแหละฮะ สร้างครอบรอบพระบาท ในนี้ก็จะมีวัวครับ
ข้างๆก็จะเป็นท่าเรือ จากท่าเรือขึ้นมาก็จะเจออันนี้เลย ถึงแล้วครับ
ร้านอาหาร ราคาไม่ใช่ภาษาทั่วไป ที่นี่เค้าก็จะมีการห่อไว้ เหมือนแบบอารมณ์แบบโต๊ะจีน เป็นระบบรักษาความสะอาด ก็คือว่าฝุ่นที่อยู่ข้างในจะไม่ออกไปข้างนอกเลย จะอยู่ในนี้ตลอด และแน่นอนครับ
ทุกมื้อเราจะต้องกิน เบียร์เมียนมาร์ เมียนมาร์เบียร์ อีกความภาคภูมิใจของชาวพม่าครับ
มื้อนี้ก็ อาหาร..น่าจะเป็นอาหารไทยปะ (อาหารไทย) – เรียบร้อยครับ
– เรียบจริงๆ สุดยอด สะอาดสะอ้าน อร่อยดี ถือว่าโอเค พระราชวังมัณฑะเลย์นะครับ
ก็จากประวัติศาสตร์ที่เล่ามา ซึ่งประวัติศาสตร์ทั้งหมดเนี่ย อยู่ในมือถือ ในรถ นี่มาตัวเปล่าครับ
ผม เป็นราชวงศ์นึงนี่แหละ สมัยก่อนเนี่ยเมืองหลวงอยู่ที่อมรปุระ แล้วก็ย้ายมาอยู่ที่มัณฑะเลย์ในช่วงยุคสงครามที่สู้กับอังกฤษ ช่วงนั้นกษัตริย์ในยุคนั้น ก็ย้ายเมืองหลวงมาที่นี่ ก็เลยมาสร้างพระราชวังนี้เกิดขึ้น
แต่ทว่า ในช่วงหลังจากนั้น ตอนจบสงครามไป ทหารอังกฤษคิดว่าที่นี่ เป็นแหล่งซ่องสุมของพวกทหารญี่ปุ่น ก็เลยถล่มครับ
ทิ้งระเบิดถล่มเละราบคาบ
และสุดท้ายครับ
รัฐบาลพม่าก็ได้ทำการฟื้นฟู โดยการที่ เอาโครงสร้างเดิมมาบูรณะใหม่ สร้างใหม่ขึ้นมา แล้วก็กลายเป็น พระราชวังมัณฑะเลย์แบบที่เราเห็นปัจจุบัน ซึ่งในยุคนั้นก็มีคนตายมากมายอยู่ข้างในนี้ ซึ่งวันนี้ครับ
รายการของเรา จะพาทุกท่านไปเจาะลึก เยี่ยมชม นี่ครับ
ตี๋ผู้ไม่กลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งเหนือมนุษย์
แต่ไม่ได้ลบหลู่ครับ
-เค้าจะเข้าไป
-ไม่ ไม่ลบหลู่ดิ เค้าจะลบหลู่ ไปกันครับ
อันนี้น่าจะเป็นจำลองครับ
ภาพกษัตริย์ยุคนั้น นั่งประทับอยู่ นี่คือฮอลล์แห่งชัยชนะครับ
หรือเรียกว่า the hall of victoria อ้อ victory ครับ
ผม โทษที อันนี้นะครับ
เวลาจะเข้ามาลืมบอกครับ
ต้องใช้บัตรนี้ด้วย บัตรมัณฑะเลย์*&^%$#@ โซนนะครับ
สำหรับเข้าสถานโบราณทั้งหมดคือบัตรใบนี้นะครับ
ใช้เข้าที่อังวะได้ด้วย เราต้องเก็บไว้ครับ
ซื้อเสร็จปุ๊บ ไม่ใช่ว่ามาถึงแล้วซื้อใหม่ บางคนไม่รู้คิดว่าต้องเสียเงินทุกที่ ใบเดียวเที่ยวได้ทุกสถานโบราณ มีหอคอยนะครับ
บนนั้น
ถ้าถ่ายวิวน่าจะถ่ายสวยอยู่ รอแดดร่มสักนิดนะ อื้อ หือ ไม่เป็นไรไม่เจ็บ อ๋อ ไม่เจ็บเพราะว่าโดนตีแล้วไม่เจ็บ ไม่ หน้ากูชาแล้ว
ไม่เจ็บ ไม่รู้สึกอะไรแล้ว จริงเหรอ ไหนลองดูซิ ฮึ ไม่
ไม่ (ไม่หยุดอีกไอ้สั*) ดูพี่บาสยังไม่เป็นไรเลย ใช่ไหมครับ
พี่บาส ใช่ ทำไม แค่นี้เหนื่อยแล้วเหรอพวกเราอะ ออกกำลังกายบ้างนะ อะ กล้อง หันไปได้ละ แฮ่ ตรงนี้น่าจะเป็นหอสังเกตการณ์นะครับ
ในราชวัง เห็นข้าศึก เห็นในวังนะครับ
เห็นว่าใครไปไหนมาไหน เดี๋ยวคุณตี๋จะทำให้เราดู ว่าการโดดลงไป โดยที่ไม่มีเครื่องป้องกันเลย ผมบอกเลยครับ
เค้าจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลย เพราะว่าเค้าจะเสียชีวิตเลยทันที
แต่ข้อดีอย่างนึงในการโดดตรงนี้ วัดเยอะเลยแถวนี้ ไม่ต้องไปไกล ไม่ต้องขนส่ง ถึงแล้วครับ
โรงแรม ก็คืนนี้จะกินแล้วก็นอนเร็ว พรุ่งนี้ต้องตื่นตีสามกว่า ไปดูพิธีที่พระมหามุนี